GenshinBuilds logo Honkai: Star Rail Honkai: Star Rail
Amphoreus, The Eternal Land

Amphoreus, The Eternal Land

2 ชุดชิ้นส่วน

อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่ เพิ่มขึ้น 8% เมื่อภูตความทรงจำ ของผู้สวมใส่อยู่ในสนาม ความเร็วของฝ่ายเราทั้งหมด จะเพิ่มขึ้น 8% และเอฟเฟกต์นี้ไม่สามารถซ้อนทับได้

ของที่ระลึก

Last West Wind of Amphoreus
Last West Wind of Amphoreus
NECK
โลกนี้ไม่มีความสงบสุขอันเป็นนิรันดร์ แม้แต่รุ่งอรุณที่ Kephale แบกขึ้นมาก็ย่อมมอดดับ ความเป็นนิรันดร์นั้น ดำรงอยู่เพียงในความทรงจำอันอบอุ่น ในดินแดนนิรันดรที่เป็นเพียงหน้ากระดาษบางๆ มีความทรงจำทั้งหมดของวัฏจักรนิรันดร์กว่าสามสิบล้านชาติใน Amphoreus หลับใหลอยู่ วันวานอันไร้ที่สิ้นสุด ทับถมกันจนกลายเป็นวันพรุ่งนี้ที่ไม่สิ้นสุด มันคือสรวงสวรรค์อันเงียบสงบ คือปลายทางของสายลมตะวันตก คือความทรงจำที่กำลังงอกเงยขึ้นมา ไม่มีพายุหิมะ ไม่มีลมหนาว ไม่มีฝนกระหน่ำอีกต่อไป ภายใต้เส้นขอบฟ้าสีกุหลาบ หาดทรายสีเงินล้วนเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้ ผู้คนที่เคยถูกพัดพาจากไปพร้อมกระแสประวัติศาสตร์ ได้พบกับที่พำนักอันสงบสุข ในระหว่างเวลาว่างอันยาวนาน ผู้คนเริ่มสร้างสรรค์การเต้นรำที่ไม่เคยมีมาก่อน และเขียนบทละครที่ไม่เคยปรากฏขึ้นที่ไหน ณ สระอาบน้ำที่มีไอน้ำลอยอบอวล ผู้คนพูดคุยถึงวีรชน หมู่ดาว สงครามและผู้ลี้ภัย ราวกับนั่นเป็นเรื่องราวในอดีตอันไกลโพ้น พวกเขาต่างรำพึงถึงชีวิตอีกชาติที่พร่าเลือน พ่อครัวในปัจจุบันกลับเคยเป็นนักวิชาการในอดีต ผู้คนที่เคยเป็นคนแปลกหน้า บัดนี้กลับกลายเป็นคู่ชีวิต ผู้คนที่เคยถูกเรียกว่าผู้สืบสายโลหิตทองเหล่านั้น การเดินทางแห่งการสูญเสียของพวกเขา ได้มาถึงจุดสิ้นสุด ณ ที่แห่งนี้ ดวงตาของผู้ถักทอทองคำ เก็บรักษาความงดงามไว้ได้อีกครั้ง มือทั้งสองของนักบุญหญิง ไม่ต้องแปดเปื้อนความเยือกเย็นของความตายอีกต่อไป จอมโจรผู้ปราดเปรียวจะได้ออกวิ่งเพื่อความสุขเท่านั้น ผู้เยียวยาก็ไม่จำเป็นต้องหลั่งน้ำตาเพื่อคนป่วยอีกแล้ว ผู้สืบบัลลังก์แห่ง Kremnos จะได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของบ้าน เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผมขาวแห่ง Elysiae ที่ยังจดจำไฟสงครามที่แผดเผาบ้านเกิดได้ขึ้นใจ แต่เมื่อตื่นขึ้นจากความฝันครั้งใหญ่ พ่อแม่กลับมาลูบศีรษะพลางวัดส่วนสูงของตัวเขา บางครั้ง พวกเขาก็เดินผ่านทางแยกของกลางวันและกลางคืน ดาราจักรอันเจิดจรัสเบื้องหน้า ดูราวกับสามารถเอื้อมมือไปสัมผัสได้ ปราชญ์แห่งลานพฤกษ์มักจะใช้เวลาอยู่ที่นี่เพื่อสังเกตการณ์ เด็กน้อยผมแดงก็ชอบจินตนาการว่า ดาวตกคือรถไฟที่กำลังวาร์ป หากมีงานเทศกาล ผู้ขับขานแห่งมหาสมุทรก็จะขับร้อง เรื่องราวการผจญภัยของผู้มาเยือนนิรนาม ส่วนนักปกครองที่ถูกเรียกขานว่า "จักรพรรดินี" ยามที่ทอดสายตามองดูโลกอันห่างไกลนั่น ก็มักจะยกจอกน้ำอมฤตอวยพรให้แก่วีรชนเสมอ... เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคตยังไม่ทันงอกเงย กลีบดอกไม้ร่วงโรยแห่งอดีต ก็ได้ปูเป็นทะเลบุปผาอันอบอุ่นแล้ว ในช่วงเวลาหนึ่งของการท่องไปในห้วงจักรวาล ผู้มาเยือนนิรนามอาจจะรู้สึกได้ถึงสายตาที่คาดหวัง สักวันหนึ่งหน้าอันเป็น "นิรันดร์" ที่ติดอยู่บนปีกแห่งการ "บุกเบิก" นี้ อาจจะมีโอกาสได้พลิกไปสู่บทใหม่ ส่วนเรื่องที่เหล่าเพื่อนเก่าไม่เคยได้เอ่ยปาก ผู้มาเยือนนิรนามล้วนเข้าใจดี "...และ{F#เธอ}{M#นาย} จะนำเรื่องราวของพวกเรา ก้าวเดินไปสู่วันพรุ่งนี้"
Eternal Verses of Amphoreus
Eternal Verses of Amphoreus
OBJECT
ในบทกวีที่มีนามว่า "Amphoreus" กาลเวลาคือหน้ากระดาษ ส่วนความโกลาหลคือจุดเริ่มต้นของมัน โลหิตสีทองได้สลักรอยเท้าแห่งการต่อสู้เอาไว้ วีรชนผู้ไล่ล่าเปลวไฟเป็นผู้ก้าวนำในภารกิจนิรมิตโลกาอันยิ่งใหญ่ บทแห่ง "ทรวาร" ประกาศถึงข่าวสารการกอบกู้โลก พรุ่งนี้หนึ่งพันครั้งค่อยๆ ถือกำเนิดขึ้น บทแห่ง "กฎเกณฑ์" ประชันเกมหมากกับเทพเจ้า เพื่อให้โลกยืนหยัดด้วยตัวเองท่ามกลางหมู่ดาว บทแห่ง "มหาสมุทร" แม้คลื่นน้ำจะแตกสลาย ทว่ายังต้านทานความว่างเปล่า ด้วยความอดทนนับพันปี บทแห่ง "จินตนิยม" ชี้นำการเดินทางไล่ล่าเปลวไฟ ด้ายทองถักทออนาคตให้แก่ผองชน บทแห่ง "ปฏิปักษ์" เส้นทางแห่งโลหิตและเปลวเพลิง บาดแผลได้ขีดเขียนเกียรติยศอันโดดเดี่ยว บทแห่ง "เพทุบาย" คำลวงห่อหุ้มใจจริง สืบสานแสงสว่างให้ดำรงอยู่ในราตรีนิรันดร์ บทแห่ง "ความตาย" โอบกอดดวงวิญญาณที่หลงทาง ทำให้วัฏจักรหมุนเวียนไม่สิ้นสุด บทแห่ง "เหตุผล" ชีวิตถูกเผาผลาญ จิตวิญญาณตั้งคำถามถึงสัจธรรมของโลก บทแห่ง "ท้องนภา" แสงเรื่อเรืองเยียวยาหัวใจ ใช้เจตจำนงของมนุษย์ ปะชุนทิวาราตรี บทแห่ง "แบกโลกา" เพลิงโทสะเผาผลาญกรงขัง วีรชนนำมาซึ่งแสงสว่างแห่งรุ่งอรุณ บทแห่ง "ปฐพี" หลอมรวมสายเลือดอมตะ คุ้มครองสรรพชีวิตที่พลัดถิ่นบนผืนดิน บทแห่ง "กาลเวลา" เฝ้าดูแลอดีตนับพันนับหมื่น อุทิศความทรงจำที่ไม่มีวันถูกลืมเลือนอีกต่อไป ... กว่าสามสิบล้านชาตินี้ เด็กสาวจรดปากกา ใช้ความทรงจำฟูมฟัก "หัวใจ" ที่ไร้เดียงสา แสงสีทั้งสิบสามหลอมรวมกันเป็นสีแห่ง "ความรัก" เมื่อดาวตกพาดผ่าน วีรชนจากนอกท้องฟ้าได้รับปากกาต่อ และร่วมก้าวสู่การไล่ล่าเปลวไฟพร้อมกับพวกพ้องอีกครั้ง เพื่อเขียนบทสรุปที่ต่างจากอดีตในแบบของ "บุกเบิก" ในตอนจบของเรื่องราว ดอกไม้บานสะพรั่งในดินแดนบริสุทธิ์อันเป็นนิรันดร์ ทางฝั่งราตรี ดวงดาวเปล่งประกายระยับ ส่วนฝั่งทิวา ผู้คนขยี้ตาฟื้นตื่นขึ้น สายลมตะวันตกพัดโชย ผู้คนต่างเอ่ยอรุณสวัสดิ์แก่กัน เฉกเช่นที่เคยทำมาตลอดกว่าสามสิบล้านชาติ ณ ที่นี้ เรื่องราวถูกวาดจุดจบลงแล้ว มันเป็นดั่งตะวันแรงกล้าที่ไม่ได้เสียดแทงดวงตาอีก เป็นดั่งเข็มทิศแห่งการ "บุกเบิก" และเป็นดั่งดวงตาที่เปี่ยมด้วยรัก "ในโลกนี้ พวกเขาได้หลอมโลหิตสีทองลุกโชนเข้าสู่ร่างกาย แล้วโชคชะตาในอนาคต จะจดจำชื่อของพวกเขาไว้หรือไม่?" บัดนี้ คำถามในบทกวีได้รับคำตอบแล้ว ความทรงจำที่ตื่นขึ้นในรุ่งอรุณ จะไม่มีวันลืม... นามของ Amphoreus

อักขระที่แนะนำ