
Band of Sizzling Thunder
2 Piece Set
DMG สายฟ้าเพิ่มขึ้น
4 Piece Set
เมื่อผู้สวมใส่ใช้สกิลต่อสู้ ATK ของผู้สวมใส่จะเพิ่มขึ้น
Relic Pieces

Band's Polarized Sunglasses
HEAD
อายุของดวงดาวลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนที่ดาวยักษ์แดงจะระเบิดอย่างสมบูรณ์ ผู้ที่อาศัยอยู่ใน Emerald-III ก็ได้หนีจากดาวบ้านเกิดของพวกเขาไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับอนาคตที่ไร้ทางหนี พวกชนชั้นสูงก็ได้พรากความหวังไป และแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงร่ำร้องอย่างสิ้นหวัง พ่อแม่ของ Janis ได้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อขึ้นยานอวกาศ โดยหวังเพียงเพื่อความอยู่รอด การระเบิดของดาวยักษ์แดงจะทำลายดาวเคราะห์ และดวงดาวจะยุบตัวเป็นดาวแคระขาว... ก่อนที่วาระสุดท้ายที่ทำนายจะมาถึง การหนีจึงเป็นคำตอบเดียว แต่ Doctor of Chaos อย่าง Janis ก็วางแผนที่จะเผชิญหน้ากับการทำลายล้างของกาแล็กซี เธอพยายามสุดกำลัง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า ร่องรอยของการดำรงอยู่จะไม่กลายเป็นความว่างเปล่า ดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะสิ้นแสงเจิดจรัสแผดเผามากขึ้นเรื่อยๆ Janis จึงหยิบแว่นกันแดดของแม่และกลับไปยังดาวบ้านเกิด พร้อมกับคนหนุ่มสาวที่มีความคิดเหมือนกัน "คนขี้ขลาดรู้จักแต่การหลบหนี เอาแต่ตะโกนขอความช่วยเหลือ"... เพลง "การช่วยเหลือราคาถูก" จากอัลบั้มแรกของวง Sizzling Thunder ซึ่ง Janis ได้นำเอาคำพูดที่เดือดดาลในขณะที่ทะเลาะกับพ่อแม่มาแต่งเป็นเนื้อเพลง

Band's Touring Bracelet
HAND
การเล่นเพลงอันทรงพลังของวง Sizzling Thunder จาก Emerald-III ได้จุดประกายความกระตือรือร้นของทั้งโลกอย่างรวดเร็ว ยามที่ Daeve มือกีตาร์ให้จังหวะดีดเป็นทำนองเร่าร้อนออกมา ประกายสายฟ้าแลบก็จะปรากฏขึ้น มันคือสัญญาณการเริ่มทัวร์คอนเสิร์ต แต่แฟนคลับกลับมองว่ามันคือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของชีวิตที่เหลือ ทัวร์คอนเสิร์ตของวงในแต่ละแห่งจะมีแฟนเพลงคอยรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อพวกเขาเข้าไปในงาน จะมีการใส่ริบบิ้นรัดข้อมือเพื่อใช้ระบุตัวตน ซึ่งแฟนเพลงพวกนี้ส่วนใหญ่จะจ่ายค่าหลบหนีราคาแพงไม่ไหว เลยต้องจำใจยอมรับชะตากรรม แต่เมื่อพวกเขาเห็นคนหนุ่มสาวผู้ดื้อรั้นเหล่านั้นกลับมายังดาวดวงนี้ ก็รู้สึกได้ทันทีว่าจิตวิญญาณของตนได้ถูกจุดไฟขึ้นอีกครั้งแล้ว บนริบบิ้นรัดข้อมือของพวกเขาจะบันทึกเนื้อเพลง และเวลาในการแสดงของแต่ละครั้ง รวมถึงบันทึกเสียงร้องตะโกนอันเงียบงันของตนไว้ด้วย Sid มือเบส ได้รวบรวมริบบิ้นรัดข้อมือของการแสดงแต่ละรอบเอาไว้ แล้วให้แฟนสาวของเขาเอามาถักเป็นสร้อยข้อมือเพื่อจะได้สวมมันไว้ได้ตลอดเวลา "ไม่มีความหมาย ไม่มีทิศทาง ไม่มีที่ให้ไป พวกเราไร้ซึ่งอนาคต" เพลง "เส้นทางของเรา" จากอัลบั้มที่ 2 ของวง Sizzling Thunder ซึ่งนี่เป็นความเชื่อของ Sid

Band's Leather Jacket With Studs
BODY
เพลงร็อกแอนด์โรลของวง Sizzling Thunder ดังก้องไปทั่วทั้งจักรวาล เหล่าคนหนุ่มสาวที่ไม่อยากหนีพากันกลับไปที่ Emerald-III ซึ่งกำลังจะพังทลาย Jimmy มือกีตาร์หลักพาวงไปยังใต้ดิน พวกเขาจะร้องเพลงที่นี่ และจะเผยแพร่เสียงคร่ำครวญของดวงดาวที่กำลังจะล่มสลาย ให้ดังไปทั่วทั้งจักรวาล ก่อนที่จะเริ่มแสดง David ได้พ่นรูปดาวสีขาวลงบนหลังแจ็กเก็ตหนังติดหนามแหลม นั่นคือดาวแคระขาวที่เกิดจากการยุบตัวของดวงดาว และนี่ยังเป็นการพิสูจน์ถึงการมีอยู่ของดวงดาวอีกด้วย ทั้งผู้ที่ออกจากกาแล็กซี และผู้ที่ยังเผชิญหน้ากับการทำลายล้าง ต่างก็ฟังเพลงร็อกแอนด์โรลที่ราวกับสายฟ้าฟาด พร้อมกับโบกสะบัดสัญลักษณ์ที่โดดเด่นนั้นไปด้วยกัน แม้ว่าวงดนตรีจะหายไปแล้ว แต่การมีอยู่ของพวกเขาจะถูกจารึกไว้ในเสียงเพลงชั่วนิรันดร์ "เราจะใช้ชีวิตที่ลุกโชนของเรา จุดประกายดาวแคระขาวที่อ้างว้างให้สว่างไสว" เพลง "ดวงดาวสีขาว" ที่มีชื่อเดียวกันกับอัลบั้มสุดท้ายของวง Sizzling Thunder ซึ่ง David เป็นผู้ที่แต่งเนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเอง

Band's Ankle Boots With Rivets
FOOT
วง Sizzling Thunder ได้เปลี่ยนทัศนคติของผู้คน ที่มีต่อการเผชิญหน้ากับวาระสุดท้าย ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตอนจบได้ พื้นผิวที่รกร้างว่างเปล่าของดวงดาวนั้น เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง ในยุคที่ขาดแคลนเสบียง วงดนตรีได้บันทึกอัลบั้มทั้งหมดของตนไว้ในแผ่นฟิล์ม X-ray ที่ถูกทิ้ง เมื่อค่ำคืนอันยาวนานมาเยือน Emerald-III อุณหภูมิพื้นผิวก็ลดลงอย่างมาก ทำให้อากาศร้อนที่ยากจะทานทน เริ่มเย็นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ผู้คนต่างออกมาจากที่พักใต้ดินของพวกเขา แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ทำการแสดงของวงดนตรี การแสดงครั้งสุดท้ายของทัวร์ "Thunderclap" ต้องเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่แสนอลหม่าน ทั้งยังเต็มไปด้วยลางบอกเหตุจากพายุแม่เหล็กไฟฟ้า และสายฟ้าที่ส่งมายังเวทีผ่านนั่งร้านโลหะ ก็ทำให้เกิดประกายไฟขึ้นที่ใต้รองเท้าของ Bonham วงดนตรีและเสียงฟ้าร้องหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน หลังจากแสดง Encore จบ สายฟ้าลูกใหญ่ก็กลืนกินเวที การกล่าวขอบคุณผู้ชมจบลง และการแสดงของวง Sizzling Thunder ก็กลายเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุด เช่นเดียวกับเนื้อเพลงของพวกเขานั่นเอง "เสียงฟ้าร้องกลบเสียงของเรา ประกายสายฟ้าไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือดของเรา และนำพาเสียงเพลงของเราให้หายวับไปพร้อมกับดวงดาว" เพลง "บทเพลงแห่งสายฟ้า" จากอัลบั้มสุดท้ายของวง Sizzling Thunder ซึ่งเป็นผลงานที่ Bonham ภาคภูมิใจ