
Bone Collection's Serene Demesne
2 Piece Set
ทำให้ HP สูงสุดของผู้สวมใส่ เพิ่มขึ้น
Relic Pieces

Aidonia's Deceased Gravestones
NECK
Aidonia... ดินแดนแห่งความตายที่มีหิมะโปรยปราย เคยตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางลมหนาว และเงียบหายไปในพายุหิมะ ในยุคทองอันแสนยาวนาน เกือบทุกผู้ทุกคนล้วนเพลิดเพลินกับความสุขของการมีชีวิตยืนยาว อยู่บนแผ่นดินกว้างใหญ่ที่แสนอบอุ่น และมีคนส่วนน้อยมากๆ ที่เบื่อหน่ายวันเวลาที่หยุดนิ่ง จึงตัดสินใจตามหาหนทางกลับคืนสู่การมีชีวิต "สิ่งมีชีวิตเกิดมาเพื่ออะไร? แล้วควรกลับคืนสู่ที่ใด?" หัวหน้าผู้เดินทางฝึกตน Eleusis ขับขานปริศนาแห่งความเป็นและความตาย แล้วมุ่งหน้าไปทางเหนือพร้อมกับเหล่าผู้เดินทางฝึกตน เพื่อตามหาความฝันยาวนาน ที่หวานล้ำและหนาวเย็น เหล่าผู้เดินทางฝึกตนที่สวมเสื้อคลุมยาว ตั้งรกรากที่ทุ่งร้างทางตอนเหนืออันเงียบสงัด และสร้างเมืองที่น่าเกรงขามขึ้นมา... เนื่องจากที่นี่มีหิมะโปรยปรายทั่วฟ้าตลอดทั้งปี จึงถูกผู้คนเรียกขานว่า "Aidonia" หนังสือเกี่ยวกับการสิ้นสุดของยุคทองขาดหายไป และคาดว่า "ผู้ล่วงลับคนแรก" ของ Amphoreus นั้นมาจาก Aidonia คนผู้นั้นได้รับพรแห่งความตายจาก "Thanatos (ไททันแห่งความตาย)" ซึ่งนั่นเป็นทั้งความเมตตา และเป็นเกียรติอันสูงสุดด้วยเช่นกัน ชาว Aidonia ต่างก็คุ้นชินกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นนานแล้ว และหิมะที่โปรยปรายก็ปนเปื้อนความศรัทธาอันเงียบสงบของ "Thanatos (ไททันแห่งความตาย)" มานานแล้วเช่นกัน เมื่อมันสัมผัสพื้นดิน จึงอดใจรอไม่ไหวที่จะช่วงชิงความอบอุ่นของสิ่งมีชีวิต... ในอดีตอันไกลโพ้น เมื่อเหล่านักเดินทางจากแดนไกล ก้าวเข้าสู่ดินแดนของ Aidonia ก็มักจะพบร่างแข็งทื่อของผู้คนนอนหลับใหลอยู่ข้างถนน และหวนคืนสู่อ้อมกอดของ "หัตถ์นิลกาฬ (ไททันแห่งความตาย)" ได้อย่างง่ายดาย ลมเหนือพัดมาพร้อมกับเสียงหวีดหวิว ผู้ล่วงลับกลายเป็นป้ายบอกทาง ที่คอยนำทางและเตือนผู้ที่เดินทางท่ามกลางลมหนาว ดังนั้นในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ เหล่านักเดินทางจึงมักจะเร่งรีบเดินทางผ่าน Aidonia เสมอ ต่อมาชาว Aidonia ได้พบป้ายหินแห่งการไว้อาลัยตั้งอยู่ในพื้นที่รกร้าง ที่มีคนเคยมอบคำอวยพรให้กับการเวียนว่ายและการสูญหายของชีวิต ใต้ป้ายหินมีเด็กสาวนิรนามหลับใหลอยู่ รอบตัวเธอรายล้อมไปด้วยเขตแดนมรณะที่เปรียบเสมือนเงา แม้แต่หญ้าคลุมกระดูกที่ดูดซับลมหายใจแห่งความตาย ก็ยังเหี่ยวเฉาและสลายไปจนหมด ชาว Aidonia รับรู้ได้ถึงสัมผัสแห่งความเมตตาของ "Thanatos (ไททันแห่งความตาย)" จากตัวเธอ จึงพาเธอกลับเมือง และยกย่องให้เป็นนักบุญหญิง เหล่าผู้ศรัทธาที่เคารพรักไททันแห่งความตาย พากันเลียนแบบนักบุญหญิง โดยสร้างป้ายหินขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่รกร้าง เพื่อยุติการเดินทางอันยาวนาน และสิ้นสุดการมีชีวิตอันยืนยาว... ความเป็นและความตายล้วนคือการเดินทาง ที่นี่มีเพียงแค่หลักศิลาที่บันทึกการเดินทางไว้เท่านั้น อนุสรณ์หินจะคอยเตือนนักเดินทางที่มาจากแดนไกลว่า ไม่มีใครรั้งอยู่ที่นั่น และไม่มีใครหลับใหลอยู่ที่นั่น... ผู้ล่วงลับก็คือนักเดินทางเช่นกัน พวกเขาคือลมเหนือและหิมะที่โปรยปราย ที่ความเกี่ยวพันกันอย่างแน่นแฟ้น

Aidonia's Deathward Bone Chains
OBJECT
เคยมีคนโง่ที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นไปหาเรื่องผู้ศรัทธาของ Aidonia โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ Amphoreus มีความเชื่อที่เคารพบูชาความตาย... "ในเมื่อพวกคุณเทิดทูน Thanatos (ไททันแห่งความตาย) ขนาดนี้ ทำไมไม่ใช้หอกแทงทะลุหน้าอกตัวเองไปเลยล่ะ?" ชาว Aidonia ชำเลืองมองเขาอย่างดูถูก "แม่น้ำอนธการ ไม่เคยปล่อยให้วิญญาณที่แร้นแค้นข้ามผ่านไป" นับตั้งแต่สร้างเมือง Aidonia ขึ้นมา ที่นี่ก็กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่หวงแหนชีวิตที่สุดใน Amphoreus ผู้ศรัทธาใน Thanatos (ไททันแห่งความตาย) เชื่อว่าน้ำในแม่น้ำอนธการเย็นยะเยือกจนถึงกระดูก และคนธรรมดาไม่สามารถข้ามไปได้ มีเพียงการใช้ชีวิตและฝึกฝนบนโลกให้มากพอเท่านั้น ถึงจะอาศัยจิตวิญญาณแห่งวีรชนอันแข็งแกร่ง เพื่อข้ามผ่านแม่น้ำอันหนาวเหน็บไปพบ Thanatos (ไททันแห่งความตาย) ได้ การแสวงหาพรแห่ง "ความตาย" จึงไม่ได้หมายความว่าดูแคลนชีวิต เพราะเหตุนี้ แม้ชาว Aidonia ผู้ไม่กลัวตายจะไม่ขาดแคลนนักรบที่น่าสะพรึงกลัว แต่กลับไม่เคยบุกยึดดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ทางตอนใต้เลย... ที่นั่นไม่ใช่ดินแดนที่จะขัดเกลาจิตวิญญาณแห่งวีรชนอันกล้าแกร่งได้ ชาว Aidonia หยามเหยียดการลุ่มหลงไปกับความสุขสบายที่สุด การฝึกตนคือวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาว Aidonia ในแต่ละปี ในวันที่หิมะหยุดโปรยปราย และท้องฟ้าแจ่มใสไม่บดบังทัศนียภาพ วันนั้นจะถูกเรียกว่าเทศกาลเก็บกระดูก เหล่านักบวชของ Aidonia จะรวมกลุ่มกันออกจากเมือง ไปค้นหากระดูกสัตว์ที่หลับใหลอยู่ในทุ่งร้างและแอ่งน้ำ กระดูกของอสูรยักษ์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่ตายไปเมื่อหลายปีภาสุรคติก่อน ถือเป็นเครื่องบูชาที่ดีที่สุด เมื่อเคาะกระดูกเหล่านั้น ก็เหมือนจะมีเสียงกระซิบเบาๆ ของ Thanatos (ไททันแห่งความตาย) ดังอยู่ในเสียงสะท้อนด้วย กระดูกสัตว์ที่ราวกับชุ่มโชกไปด้วยความหนาวเย็นของแม่น้ำอนธการ ถูกขนกลับไปยังในเมืองตามลำดับ... ชิ้นที่เสียหายเล็กน้อยจะถูกดัดแปลงเป็นเครื่องประดับ และส่งต่อไปสู่มือของชาวเมือง ให้สวมติดตัวตลอดเวลา ส่วนชิ้นที่มีสภาพดีจะถูกนักบวชขัดเกลาเป็นดาบกระดูกแห่งมรณา เพื่อใช้เป็นของขวัญเทศกาล ในช่วงเทศกาลเก็บกระดูกครั้งหนึ่ง ชาว Aidonia ได้พบเด็กสาวในทุ่งร้าง หลังจากนั้นข่าวลือที่ว่า "สัมผัสของเธอทำให้ผู้คนก้าวข้ามอุปสรรคของแม่น้ำอนธการ และเผชิญหน้ากับความตายได้" ก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ศรัทธาใน "ความตาย" ต่างรีบเร่งมาที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ เพียงเพื่อจะได้พบกับตัวแทนของ Thanatos (ไททันแห่งความตาย) เหล่านักบวชของ Aidonia เล็งเห็นอิทธิพลของเด็กสาว ที่มีผลต่อการทำลายศรัทธาได้ในทันที จึงแต่งตั้งเด็กสาวเป็นนักบุญหญิงแห่งสงคราม และห้ามประชาชนเข้าใกล้เธอโดยเด็ดขาด มีเพียงผู้เดินทางฝึกตนที่ผ่านการขัดเกลาจากโลกมาโชกโชน และเคารพรักความเป็นและความตายเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์หวนคืนสู่ปรภพในอ้อมกอดของเด็กสาว เด็กสาวสวมเสื้อคลุมที่นักบวชเตรียมไว้ให้ ใช้สองมือลงทัณฑ์ประหาร และใช้อ้อมกอดส่งเข้าสู่ความตาย ชาว Aidonia เชื่อว่า "แม่น้ำอนธการ ไม่เคยปล่อยให้วิญญาณที่แร้นแค้นข้ามผ่านไป" นั้นเป็นความจริง แต่แม่น้ำอนธการไม่เคยไถ่ถามถึงน้ำหนักของวิญญาณ มันเพียงแค่ไหลอย่างเงียบงัน ไปยังปลายทางของผู้มีชีวิตทั้งหลาย และบรรจบกันที่นั่น