Genius of Brilliant Stars

สมาชิกส่วนใหญ่ของสมาคมอัจฉริยะ ล้วนเป็นคนประหลาด และการขาดการสื่อสารระหว่างคนประหลาดนั้น ก็เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้เลย สำหรับเหล่าอัจฉริยะทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในโลกต่างๆ การไปมาหาสู่กันออกจะเป็นภาระที่มากเกินไป แม้แต่คนธรรมดาก็เป็นแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? Elias Salas สมาชิกลำดับที่ 56 และเป็นประธานคนที่ 2 ของสมาคมอัจฉริยะ ได้เคยพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยการใช้แว่นตาสำหรับสื่อสารซึ่งมีฟังก์ชันการตรวจจับระยะไกล แต่ที่น่าเสียดายก็คือ ถึงแม้ว่าสะพานข้ามดวงดาวอันไกลโพ้นจะถูกสร้างขึ้นแล้ว แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เต็มใจจะข้ามสะพาน... อุปกรณ์สื่อสารที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวาล จึงไม่เคยเกิดบทสนทนาที่มีประสิทธิภาพมาก่อนเลย " 'ผู้ใช้ที่คุณต้องการติดต่อ ไม่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ' ขอร้องเถอะนะ เวลาแกล้งทำเป็น AI มาปฏิเสธฉัน ช่วยจริงจังกว่านี้หน่อยได้ไหม..." Elias Salas ถอนหายใจ เขารู้ว่านี่คือการบังคับฝืนใจ แต่เขาก็ต้องลอง เพราะถึงอย่างไร เทคโนโลยีนี้จะต้องทำประโยชน์ได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากทำงานอยู่ในร้านผลไม้ของพ่อบุญธรรม การแอบอู้งาน หรือจะอู้งานยังไงให้ไม่มีใครจับได้นั้น จึงเป็นปัญหาใหญ่ของ Stephen Lloyd สมาชิกลำดับที่ 84 เขาจึงทำถุงมือที่สามารถจับคลื่นความถี่จำเพาะ รวมถึงเสียงและแสงเพื่อคอยหลบหนีขึ้นมา และเขาก็จะซ่อนตัวอยู่หลังรั้วความถี่เพื่อทำวิจัยด้านดนตรี ความสามารถเก็บเสียงและแสงไว้ได้ในพื้นที่ที่กำหนด โดยไม่มีเล็ดลอดออกมาเช่นนี้ เป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงวิทยาศาสตร์ได้ อย่างน้อยในระบบวิทยาศาสตร์สุดคลาสสิกของ Aiden ที่มีในปัจจุบันก็ยากจะอธิบายเรื่องนี้ได้... แต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ไม่มีเจตนาที่จะสร้างผลกระทบใดๆ ให้กับโลกวิทยาศาสตร์เลย และตัวเขาเองก็ไม่มีความคิดจะเผยแพร่เทคโนโลยีนี้สู่สาธารณะด้วยซ้ำ ถึงอย่างไร นี่ก็เป็นเพียงของเล่นที่สร้างขึ้นมาจากความเกียจคร้านของเขาเท่านั้น "Stephen ถึงฉันจะไม่รู้ว่านายกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็คงจะแอบอู้อยู่แน่ๆ เลยสินะ?" แม้ว่า Stephen Lloyd จะถูกขนานนามว่า "อัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ" แต่สำหรับพ่อบุญธรรมของเขาแล้ว เขาเป็นเพียงเด็กที่ชอบเพ้อฝันและแอบอู้งานเท่านั้น

พื้นที่ Metafield ที่สร้างขึ้นโดย Sserkal สมาชิกลำดับที่ 29 ได้ก้าวข้ามเผ่าพันธุ์ทางชีววิทยาและมิติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใดก็ตาม ต่างก็สามารถผสานสัญญาณทางประสาทเข้ากับเครือข่ายการรับรู้ผ่านชุดดำน้ำได้ สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถเดินทางไปยังโลกอื่นๆ ได้แต่ต้องเชื่อมต่อกับพวกมันผ่านแดนฝัน เพื่อแสวงหาความสงบเงียบที่หาไม่ได้ในความเป็นจริง สิ่งมีชีวิตในจักรวาลได้สร้างทรัพย์สินทางวัฒนธรรมจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นใน Metafield และมีการจัดระเบียบขึ้นใหม่เงียบๆ เมื่อมีคนทำนายว่าดินแดนสวรรค์แห่งใหม่จะมาแทนที่ความเป็นจริง "ผู้สร้างเครือข่าย" จึงตัดเครือข่ายการรับรู้ออกไปโดยสิ้นเชิง ราวกับว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น และพื้นที่ Metafield ทั้งหมดก็เงียบสงัดราวกับฤดูหนาวในทันที "พวกนักลงทุนที่คุยแต่เรื่องพื้นที่ Metafield ทั้งวันต่างก็เป็นบ้าไปกันหมด อุตสาหกรรมให้ค่าตอบแทนมาหลายครั้ง แต่พื้นที่ Metafield ให้ไม่ได้เลยนะ" หลังจากผ่านการสูญเสีย ผู้คนทั้งหลายต่างก็คิดแค่ว่า: เดิมที Metafield ก็เป็นแค่จานเพาะเชื้อสำหรับจิตวิญญาณ มันเชื้อเชิญให้สิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ เข้ามาในนี้ ก็เพื่อเก็บตัวอย่างจิตวิญญาณแบบฟรีๆ เท่านั้น

Dr. Primitive สมาชิกลำดับที่ 64 ผู้มีชื่อเสียงเรื่องความชั่วร้าย ได้หลบหนีการจับกุมข้ามดวงดาวมาตลอดชีวิตเพราะอาชญากรรมร้ายแรงที่เขาก่อไว้ "Dr. Primitive" คล้ายจะสนุกกับสิ่งนี้ เขาตั้งใจรักษาระยะห่างจากพวก Ranger ไม่ให้ถูกจับได้ แต่ก็ไม่ให้พวกเขาคลาดกับร่องรอยของตนด้วยเช่นกัน ระหว่างการหลบหนี เขาใช้เทคโนโลยีบางอย่างเพื่อดักจับแรงโน้มถ่วง จึงทำให้สามารถใช้แรงโน้มถ่วงเพื่อเคลื่อนที่ในอวกาศได้อย่างอิสระ ซึ่งนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์แห่งสถาบันแห่งปัญญา ก็ยังไม่สามารถเข้าใจหลักการนี้ได้ จึงทำได้เพียงตั้งข้อสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเพราะความแตกต่างของแรงโน้มถ่วงระหว่างดวงดาวที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ เหล่าผู้ที่ไล่ล่าต่างก็ขับขี่ยานพาหนะจากยุคแรงโน้มถ่วง แล้วพยายามไล่ตามหลังเขาอย่างยากลำบาก โดยหมายมาดว่าจะจับกุมผู้กระทำความผิดมาให้ได้ "การท่องอวกาศเป็นเรื่องโรแมนติก" Galaxy Ranger กล่าว "แต่น่าเสียดายที่คนที่เราไล่ตามคือ Dr. Primitive" กระทั่งหลังจากที่ "Dr. Primitive" หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง Galaxy Ranger ก็ยังไม่เชื่อคำสันนิษฐานว่า "เสียชีวิตแล้ว" พวกเขายังคงไล่ล่าอย่างไม่หยุดยั้ง