Izumo Gensei and Takama Divine Realm

Izumo Gensei and Takama Divine Realm

2 Piece Set

ทำให้ ATK ของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเข้าสู่การต่อสู้ หากมีเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ Path เดียวกันกับผู้สวมใส่อย่างน้อย 1 คน อัตราคริติคอลของผู้สวมใส่จะเพิ่มขึ้น 12%

Relic Pieces

Izumo's Magatsu no Morokami
Izumo's Magatsu no Morokami
NECK
ดวงดาวทั้งสอง มีชะตากรรมอันน่าเศร้าที่เกี่ยวพันเข้าด้วยกัน และล้อมวงเต้นรำอยู่รอบดวงอาทิตย์อันมืดมิดตลอดกาล แรกเริ่ม ดาวดวงหนึ่งในนั้นได้ให้กำเนิดมนุษย์ขึ้นมา พวกเขาก้มหัวและเรียกดินแดนที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าว่า "Izumo" จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นและเรียกโลกบนท้องฟ้าว่า "Takamagahara" ในวันหนึ่งที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ "เทพเจ้าทั้งมวล" ก็ได้ลงมาจาก Takamagahara เหล่าสัตว์ร้ายในคราบเทพเจ้าออกอาละวาดพลิกผืนฟ้า เผามหาสมุทรและแม่น้ำ อีกทั้งทำให้พื้นดินพังทลาย... ผู้คนต่างพากันตื่นตระหนกเมื่อได้รู้ว่า นี่ไม่ใช่การรุกรานที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกครอง ครอบงำ หรือปล้นสะดม แต่ทวยเทพผู้ดุดันเหล่านั้นมาเพื่อไล่ล่าและสังหารโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้ Izumo ก็ได้เริ่มต้นเดินไปบนเส้นทางของ "การกวาดล้างเทพ" โดยใช้พละกำลังทั้งหมดของอาณาจักร มาสังหาร "อำนาจแห่งวิวรณ์" ผู้เป็นมหาหายนะ แล้วหล่อหลอมร่างสัตว์ร้ายของเขาให้กลายเป็น "ดาบประกาศิต" ดั้งเดิม ก่อนจะท่องมนต์แห่งสัจจะที่แฝงอยู่ในดาบเพื่อคืนสนอง ทำให้ผู้ใดที่ครอบครองดาบ สามารถกุมชะตาของบรรดาเทพเจ้าแห่ง Takamagahara เพื่อต่อกรกับเทพเจ้าผู้ชั่วร้ายและกอบกู้โลกได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาณาจักร Izumo ก็ได้เริ่มต้นการเดินทางเพื่อพิชิตอันแสนยาวนาน ซึ่งระหว่างนั้น ก็ได้เกิดการเสียสละมากมายนับไม่ถ้วน เพื่อแลกกับการล่มสลายของเทพเจ้าแต่ละตน และทำลายดาบนับพันในโลกมนุษย์ เพื่อหลอม "ดาบประกาศิตพิทักษ์โลก" ทั้งสิบสองเล่มขึ้นมา ท่ามกลางการต่อสู้อันโหดร้ายเพื่อเอาชีวิตรอดนี้ ในเวลาไม่ถึงสิบยุคอำพัน อาณาจักร Izumo ก็ได้อาศัยพลังของ "ดาบประกาศิต" เพื่อส่องแสงสว่างให้แก่โลกอันป่าเถื่อนและมืดมน แล้วก่อตั้งดินแดนที่เปล่งประกายขึ้นมา อาณาจักรแดนสรวงสวรรค์ที่ในอดีตช่างสูงส่งเกินไขว่คว้า ตอนนี้กลับอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่แล้วประวัติศาสตร์ก็เป็นอันต้องหยุดชะงักลง จากนั้นการดำรงอยู่ของดาวทั้งสองดวง ก็มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในเวลาอันสั้น ทุกวันนี้ สามารถตามหาอดีตของดาวชายขอบอย่าง "Izumo" ได้แค่ในเศษเสี้ยวของเรื่องราวในจักรวาล ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการหายไปของมัน และก็ไม่มีใครสามารถถอดรหัสปริศนานี้ได้ ประวัติศาสตร์ของ Izumo ซึ่งเดิมทีควรจะเป็นเหมือนสายน้ำที่ทอดยาว กลับถูกตัดขาดสะบั้นด้วยคมดาบ จนอดีตและอนาคตทั้งหมด หายไปในอีกฟากฝั่งหนึ่งของความว่างเปล่า บางทีมันอาจจะไม่เคยมีอยู่จริง และเป็นเพียงเรื่องสมมติเท่านั้น? หรือมันอาจจะเคยเกิดขึ้นจริง แต่ติดชะงักอยู่บนชายฝั่งของเหตุและผลที่กลับตาลปัตร? หรือว่านี่เป็นอีกหนึ่งการทดลองอันโหดร้ายของ Dr. Primitive หรือว่าเป็นเค้าลางแห่งการกลับมาของ "ความโลภ" จากปลายสุดของจักรวาล? มีเพียงดวงอาทิตย์อันมืดมิดดวงใหญ่เท่านั้นที่รู้คำตอบ ทว่าเทพตนนั้นกลับเงียบงันและไม่เคยเอื้อนเอ่ยสิ่งใด เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นจะต้องหวนคืนสู่จุดจบ และทุกสิ่งที่มาถึงจุดจบ ก็จะต้องเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง จักรวาลจะหมุนเปลี่ยนเวียนวนภายใต้ร่มเงาของเทพตนนั้นตลอดกาล และสุดท้าย Izumo ก็จะเป็นเพียงหมายเหตุส่วนเล็กๆ เท่านั้น
Izumo's Blades of Origin and End
Izumo's Blades of Origin and End
OBJECT
ดวงดาวทั้งสอง มีชะตากรรมอันน่าเศร้าที่เกี่ยวพันเข้าด้วยกัน บทเพลงแห่งความตายกระจัดกระจายอยู่ในถ้ำซ่อนแสง บทเพลงนั้นไม่มีจุดเริ่มต้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไร้สุ้มไร้เสียง ไร้ผู้ขับขาน และไร้ซึ่งผู้สดับฟัง ซึ่งเขียนเอาไว้ดังนี้: Takamagahara อันไกลโพ้นดุจดั่ง Izumo เดิมทีนั้นเป็นถิ่นสุขาวดีอันบริบูรณ์ หากแต่ฟ้าดินแปรเปลี่ยน สุริยันอนธการชักนำกระแสน้ำ ดั่งทวยเทพเทวาที่เคลื่อนพลยาตราเข้ามาใกล้ หายนะและทวยเทพทั้งมวลเผาผลาญโลกา ผู้ใดจะล่วงรู้ว่าอำนาจกำลังจะถูกช่วงชิงไป ดาบหักเจ็ดหมื่นสามสิบสามเล่มของอาณาจักร Izumo ถูกหลอมเป็นดาบประกาศิตพิทักษ์โลกสิบสองเล่ม หนึ่งคือ "ความจริง" หลอมโดยการฟาดฟัน "อำนาจแห่งวิวรณ์" ทำให้มนุษย์เข้าใจหลักกฎเกณฑ์ แยกแยะสรรพสิ่ง และสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาใหม่ สองคือ "ฟากฟ้า" สร้างขึ้นโดยการฟาดฟัน "เวหานิรันดร" สามารถเปลี่ยนท้องฟ้าสูงให้กลายเป็นกำแพง ที่เทพเจ้ายากจะก้าวข้ามผ่าน สามคือ "เสียงคำราม" หลอมขึ้นโดยการสังหาร "มหาอัสนี" ทำให้สายฟ้ากรีดแยกท้องนภา และดวงดาราฟาดลงมาเป็นทัณฑ์จากสวรรค์ สี่คือ "สายลม" สร้างขึ้นโดยการฟาดฟัน "เทพแห่งพายุ" ทำให้สายลมแรงกล้าฉีกผืนพสุธา เมฆเมฆาดำทะมึน ฝนฟ้ากระหน่ำไม่สิ้นสุด ห้าคือ "น้ำค้างแข็ง" ที่ตีหลอมขึ้นจาก "อาภรณ์เหมันต์แห่งฟากฟ้า" ทำให้น้ำค้างกลายเป็นน้ำแข็ง และทำให้ดินแข็งตัวไร้ขอบเขต จนยากจะตัดผ่านได้ หกคือ "ชีวิต" ซึ่งหลอมโดยการฟาดฟัน "ดรุณีแห่งมรรตัย" จึงทำให้สุสานแห้งแล้งเต็มไปด้วยมวลบุปผา ชีวิตและความตายวนเวียนไร้ร่องรอย เจ็ดคือ "เพลิงกัลป์" ซึ่งตีหลอมขึ้นโดยการฟาดฟัน "เทพแห่งอัคคี" จึงทำให้เปลวไฟแผดเผาโลกา โชติช่วงชัชวาลดั่งจุดเทียนบนท้องฟ้า และจุดไฟในทุ่งหญ้า แปดคือ "ตื่นรู้" หล่อหลอมโดยการฟาดฟัน "เทพผู้รอบรู้" ซึ่งทำให้กระจกวารีสะท้อนอดีตเพื่อรู้อนาคต แยกแยะความจริงจากความเท็จชั่วนิจนิรันดร์ เก้าคือ "รากฐาน" หล่อหลอมโดยการฟาดฟัน "บิดาแห่งพสุธา" จึงทำให้หมู่เกาะลอยล่องกลางนภา ภูผาปฐพีแตกร้าวอยู่เบื้องหน้ากระบวนทัพ สิบคือ "นับพัน" หล่อหลอมจากการฟาดฟัน "เจ้าแห่งปรโลก" ซึ่งทำให้มนุษย์เชื่อมโยงเป็นโครงข่าย และก่อตัวเป็นกระแสน้ำขึ้นลงนับไม่ถ้วน สิบเอ็ดคือ "ผูกมัด" หล่อหลอมโดยการฟาดฟัน "ปกปักษ์ลางร้าย" จึงทำให้เคราะห์ร้ายทั้งหมดติดอยู่ในกรง และวิญญาณชั่วร้ายล้วนจรลีหนีหาย สิบสองคือ "กลืนกิน" ซึ่งถูกหล่อหลอมโดยการฟาดฟัน "หายนะอนันต์" จนกัดกร่อน เสื่อมสลายชีวิตนิรันดร์ แยกสี่ดวงวิญญาณของเทพและโอนิจนกลายเป็นสอง จากนั้นปรโลกก็ถูกกวาดล้าง สงครามยุติลง ประกายเย็บเยียบทั้งสิบสองเล่มถูกหักโค่น ดวงวิญญาณในความว่างเปล่าคำรามก้อง สุริยันอนธการสาดส่อง หล่อหลอมเป็นดาบสองเล่มเพื่อแบกรับชะตากรรมโลก หนึ่งคือ "จุดเริ่มต้น" และอีกหนึ่งคือ "จุดสิ้นสุด" เพราะทุกสิ่งเริ่มต้นจากมนุษย์ และจบลงด้วยการเป็นโอนิ สรรพเสียงหยุดชะงักทันใด ดอกไม้แห้งเหี่ยวโรยรา ผู้แพ้กลับสู่สุญตา ผู้ชนะ...กลายเป็นสุญตา นักบวชผู้มีกายาบกพร่อง กู่ก้องร้องบทเพลงไร้ทำนอง ผู้ครองพลังแห่งเทวา ก็ยังคงถอยร่นกลับไปหาเทพเจ้า ภายใต้สักขีพยานแห่งดวงตะวันอันยิ่งใหญ่ ในแดนดินที่เคยขนานนามว่า "Izumo" มนุษย์ เทพเจ้า และโอนิ... ล้วนไม่อาจแสวงหาพบ ณ ที่แห่งใดได้อีก