Eagle of Twilight Line

Eagle of Twilight Line

2 Piece Set

DMG ลมเพิ่มขึ้น 10%

4 Piece Set

หลังจากผู้สวมใส่ใช้ท่าไม้ตาย จะเร่งแอ็กชันขึ้น 25%

Relic Pieces

Eagle's Beaked Helmet
Eagle's Beaked Helmet
HEAD
ในยามเช้าของทุกๆ วัน Skyfisher แห่ง Salsotto จะออกเดินทางจาก "ท่าเรือแห่งฟากฟ้า" ของเมืองเคลื่อนที่ โดยการกางปีกชุด Winged Suit ออก แล้วกระพือปีกบินไปสู่ท้องฟ้า เพื่อไล่ล่าโฟลจิสตันที่บินออกมาจากทราย โฟลจิสตันที่ประกอบเป็น "มิติเปลวเพลิง" คือเส้นเลือดของเมืองเคลื่อนที่ขนาดใหญ่แห่งนี้ ซึ่งจะต้องตามจับพวกมันให้เพียงพอ เพื่อรับประกันว่าเมืองทั้งเมืองจะไม่ถูก เส้นแบ่งรุ่งอรุณและพลบค่ำสลัดทิ้งไว้ข้างหลัง หากมีผู้เสียชีวิตจากอาการอ่อนเพลีย หรือจากการถูกนกยักษ์โจมตี ชาว Salsottian จะทำทุกวิถีทางเพื่อนำร่างของพวกเขากลับคืน และพวกเขาจะฝังร่างเหล่านั้นพร้อมปีกและหมวกนกอินทรี ลงสู่พื้นดินอันกว้างใหญ่ที่มีแต่ความมืดมิด ในพิธีกรรมดั้งเดิมของ Salsotto "การลงจอด" นั้นเท่ากับความตาย และหมายถึงการพักผ่อนชั่วนิรันดร์ด้วย การโผบินไม่อาจหยุดลงได้ เมืองนี้ก็เช่นเดียวกัน หมวกนกอินทรีชิ้นนี้มีข้อความแสดงความเสียใจสลักอยู่บนจะงอยปากว่า: "ผืนดินมิใช่โซ่ตรวนของนกอินทรี หากแต่มันคือปีก และเพราะปีกนี้เอง เจ้าจึงจำต้องโบยบิน"
Eagle's Soaring Ring
Eagle's Soaring Ring
HAND
มีเพียงหัวหน้าทีมล่าที่เก่งกาจ น่าเชื่อถือ และพึ่งพาได้เท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ครอบครอง "Soaring Ring" พวกเขาจะเป่านกหวีดตกปลากลางอากาศ และออกคำสั่งประสานงานได้อย่างยอดเยี่ยม เหมือนกับเหยี่ยวนักล่าที่มีสัมผัสเฉียบคมที่สุด สำหรับสมาชิกในทีม การกระพือปีกแต่ละครั้งจะมีความเดียวดายและเปราะบางเสมอ มีเพียงเสียง "นกหวีด" 124 แบบของหัวหน้าทีมเท่านั้นที่พึ่งพาได้ ดังนั้นจึงมีคำพูดโด่งดังของ Salsotto ว่า: "Skyfisher จะจับปลาเป็นกลุ่ม พวกเขาจะอุทิศหนึ่งในสามส่วนของชีวิต ให้กับการเรียนรู้เทคนิคต่างๆ และอุทิศอีกหนึ่งในสามส่วนนั้น ให้กับอุปกรณ์อันชาญฉลาด และหนึ่งส่วนสุดท้ายของชีวิต จะอุทิศให้กับหัวหน้าทีมล่าที่เชื่อถือได้" หัวหน้าทีมผู้แบกรับความไว้วางใจจากหลายครอบครัว มักจะรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของแหวนวงเล็กที่สวมอยู่ตลอดเวลา การแกะสลัก Soaring Ring นั้นจะมีจุดด่างปะปนอยู่ และด้านในของตัวแหวนได้สลักคำว่า "หน้าที่" เอาไว้
Eagle's Winged Suit Harness
Eagle's Winged Suit Harness
BODY
การจับโฟลจิสตันที่บินออกมาจากทรายนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Skyfisher แห่ง Salsotto เมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน สายรัดที่ดูอ่อนนุ่มในแว็บแรกก็จะเข้ายึดติดกับร่างกาย และยามที่เจอลมพัดแรงบริเวณนอกเมือง มันก็กลายเป็นสายที่ผูกกับชีวิตของ Skyfisher เป็นที่เรียบร้อย การจับโฟลจิสตันที่บินออกมาจากทรายนั้นไม่ง่ายเลย ทั้งต้องหลอกล่อ ไล่ล่า และสกัดกั้น แต่ละขั้นตอนล้วนมาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจร่วงตกจากฟ้าได้ Skyfisher ที่ยังไม่โตเต็มวัย จะต้องนำเส้นผมของพ่อและแม่มามัดไว้กับเชือก ส่วนผู้ที่แต่งงานแล้วจะใช้ผมของคู่ครองแทน ถือเป็นการรับพรจาก "ครอบครัว" เพื่อช่วยคุ้มครองให้ Skyfisher กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย ในโลกแห่งการเอาชีวิตรอดอันโหดร้าย มีเพียง "ครอบครัว" เท่านั้นที่คอยโอบอุ้มเหล่า Skyfisher เอาไว้ ซึ่งเส้นผมในสายรัดนี้ยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ มันเป็นเส้นผมของผู้หญิง และยังมีสีขาวเล็กน้อยอีกด้วย
Eagle's Quilted Puttees
Eagle's Quilted Puttees
FOOT
กระบวนการไล่ล่าโฟลจิสตันของ Skyfisher แห่ง Salsotto นั้นเป็นการแข่งขันเพื่อความอยู่รอดที่แสนยาวนาน และจะต้องรักษาความอบอุ่นของสองเท้า ที่อยู่ห่างจากหัวใจเอาไว้ด้วยสายรัดขนนก หลังจากสิ้นสุดการล่าที่ยาวนานและดุเดือด ร่างกายก็จะเริ่มแสดงความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าออกมา สำหรับ Skyfisher ที่ไม่ได้เตรียมตัวมาเต็มที่ นี่คือช่วงเวลาที่พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด จากบาดแผลที่โดนความเย็นจัดในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นก่อนออกเดินทาง Skyfisher จะตรวจสอบความแข็งแรงของสายรัดหลายครั้ง เพราะเมื่อบินไปด้วยความเร็วสูงแล้ว จะไม่มีโอกาสปรับมันเป็นครั้งที่สองอีก ชั่วขณะที่พวกเขาก้าวสู่ท้องฟ้า พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าสายลมจะนำพาสิ่งใดมาให้ ในปลอกโลหะของสายรัดนี้ มีร่องรอยการใช้ผงปูนขาวและผงอะลูมิเนียมเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนจะใช้สำหรับให้ความร้อนฉุกเฉิน